ช่วงนี้ก็เป็นช่วงรับปริญญาของบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนอื่นก็ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตทุกคนด้วยนะครับ วันนี้ผมก็ได้มีโอกาสไปกล่าวแสดงความยินดี กับน้องบัณฑิต สาขาเวศนิทัศน์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก็เตรียมประสบการณ์ที่อยากจะแชร์ให้น้องๆบัณฑิต เป็นหลักการคิดเรื่องการเงินที่สรุปเอง 3 ข้อ ในตอนที่พูดก็ทั้ง พูดเร็ว ประหม่า พูดติดๆขัดๆ แต่ก็เห็นว่าสิ่งที่พูดไปน่าจะมีประโยชน์ เลยเอามาเขียนแชร์ตอนนี้อีกที หลักการเรื่องเงินที่สรุปไว้ 3 ข้อคือ
1 การออม การออมเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนต้องมี ยิ่งเมื่อเราเรียนจบเป็นบัณฑิตแล้วก็ต้องเริ่มหาเงินด้วยตัวเอง เกือบทุกคนพอมีเงินเดือนช่วงแรกๆ ก็จะชอบที่จะใช้หมด คิดว่าพึ่งหาเงินได้เองทั้งที่ก็ของใช้ไปก่อน ผมก็เป็นคนนึงที่คิดอย่างนั้น แต่ถ้าย้อนกลับไปได้ ก็อยากเริ่มเก็บออมเงินตั้งแต่เดือนแรกของเงินเดือนเลย เพราะการเริ่มออมเงินยิ่งเริ่มเร็วยิ่งได้เปรียบ แต่ก็ต้องออมให้ฉลาด ออมให้ถูกที่ ทำให้เงินมันทำงานให้เราเพื่อให้มันเรียกเพื่อนๆมา หลายๆคนคงคิดแล้วจะเริ่มออมเท่าไรดี ผมแนะนำง่ายๆ ที่ 10% ของรายได้ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นอาชีพฟรีแลนซ์แบบผม ก็แนะนำที่ 30 - 40 % เลย เพราะอาชีพเรารายได้ไม่คงที่ ควรที่จะสำรองไว้เยอะๆ แล้วก็จะมีส่วนใหญ่ที่ถามต่อว่า แล้วถ้าหักแล้วไม่พอใช้ล่ะ มันหักไม่ได้หรอก10% เรื่องนี้ผมเคยฟังบรรยายโค๊ชหนุ่ม money coach เขาก็ตอบคล้ายๆก็ หักแล้วสุดท้ายมันก็จะได้เอง คนเราจริงๆมีเท่าไรก็ใช้ไม่พอหรอก แต่ถ้าไม่หักไว้เราก็จะไม่มีเก็บสักที และถ้าเราไม่สามารถหัก 10% ได้ แสดงว่ารายได้เรามีปัญหาแล้ว ควรที่จะหารายได้ทางอื่นมาเพิ่มเติม
2 ตั้งเป้าหมายการเงินให้สูงๆ และชัดเจน ข้อดีของการมีเป้าหมายสูงๆ คือจะทำถึงเราจะไม่ได้ไปถึงเป้าหมายสูงสุด แต่เท้าเราก็จะไม่เปื้อนดิน หลักง่ายๆในการตั้งเป้าหมาย คือการตั้งที่ยอดเงินเป็นเลย เช่น อยากมี� 1000 ล้านบาท บางคนพอเห็นยอดนี้แล้ว ก็จะคิดว่า เฮ้ย จะเป็นไปได้ไง แต่ถ้ามีขนาดนั้นก็คงดี แล้วก็จบไป ซึ่งมันก็จะจบไปจริงๆ ไม่เกิดผลอะไรกับชีวิตเรา เพราะเราไม่ได้เห็นคุณค่าว่าเราจะมี 1000 ล้านไปทำไม รู้แค่ว่ามันเยอะ เป็นไปไม่ได้หรอก ตอนนี้มี 1000 บาทในกระเป๋า ก็ดีใจแล้ว ซึ่งแต่ก่อนผมก็เป็นคนนึงที่คิดอย่างนั้น มันเป็นไปไม่ได้ แต่พออายุมากขึ้นก็โชคดีที่มีโอกาสเจอคนใกล้ตัว ทั้งที่อายุน้อยกว่า แต่มีเงินจะแตะพันล้านแล้ว เขาก็ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองอะไร บางเคสก็เห็นเขาเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่เป็นนักศึกษา จนประสบความสำเร็จได้ แสดงว่ามันน่าจะเกี่ยวกับแนวคิดมากกว่า� � �
����2.1� �อย่างแรกเราจะต้องเชื่อก่อนว่ามันเป็นไปได้ แล้วให้ความสำคัญกับมันว่าจะส่งผลยังไงกับชีวิตเรา นึกถึงมันอย่างชัดเจน อย่างถ้าผมมี 1000 ล้าน
ผมจะแบ่งใช้หนี้ให้ที่บ้าน สร้างบ้านใหม่ หลังใหญ่ๆให้ครอบครัวมาอยู่รวมกัน แบ่งให้พ่อแม่ แบ่งให้ตายาย แบ่งให้ย่า งบเอาไปเลย 100 ล้าน
เอาให้ศรีภรรยา 100 ล้าน
ซื้อรถสปอตสักคัน 10 ล้าน แบ่งไว้ใช้เล่นให้รางวัลชีวิต 40 ล้าน
เก็บไว้ให้ลูก 50 ล้าน
ทำกองทุนเงิน ทุนการศึกษาลูกตำรวจชั้นผู้น้อย 100 ล้าน
เปิดบริษัททำเกมการศึกษา 100 ล้าน�
และมี 500 ล้านเก็บไว้ในหุ้น ปันผล 5% ต่อปี มีเงินใช้ 25 ล้านต่อปีชิลๆ ใช้ชีวิตสบายๆ ยังกับกดสูตรเกมติดแล้วเป็นอมตะ
การทำอย่างนี้จะทำให้ 1000 ล้าน มันไม่ใช้แค่ลมที่นึกถึงแล้วหายไป ทำให้เราเริ่มรู้สึกสัมผัส ถึงมันได้เหมือนจริงมากขึ้น�
����2.2 ขั้นต่อไปเราก็ต้องกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ว่าตอนนี้เรามีเท่าไร เราจะต้องทำอะไรบ้าง เพื่อจะไปสู่เป้าหมายได้ ซึ่งเงินออมจะเป็นคำตอบของคำถามที่เรามามีเท่าไร ถือเป็นกุญแจสำคัญเพราะถ้าเราเริ่มจาก 0 ไม่มีเงินถุงเงินถังจากไหน ทุนของเรามันก็คือยอดเงินออมที่เก็บได้ เราจะต้องสำรวจตัวเองให้ดี ว่าทุนตั้งต้นเราทั้งหมดเท่าไร ทุนไม่ได้หมายถึงแค่สิ่งที่เป็นเงินเท่านั้น แต่หมายถึงความสามารถ ความชอบที่เรามีด้วย เพราะการตั้งเป้าหมายสูงๆ ถ้าจะไปทำอะไรมั่วๆ ทำอะไรที่ไม่ชอบโอกาสรอดน่าจะไม่มีเลย แต่ถ้าเราพบการเราเก่งอะไร ชอบทำอะไร แล้วเอาจุดนั้นมาเป็นจุดเริ่มต้น การทำตามเป้าหมายของเรามันก็จะสนุกขึ้น�
และในตอนเริ่มต้น เราก็จะต้องวางแผน
เริ่มต้นทุนเรามีเท่าไร ผมมีเงินเก็บ 5 แสนบาท ชอบทำอะไร ชอบเทรดหุ้น คิดว่าจะทำได้เท่าไร 5000 ต่อวัน (ประมาณ 1% หรือราคาหุ้นขึ้นประมาณ 3 ช่อง )
ถ้าทำได้ทุกวัน ตลาดหุ้นเปิดประมาณ 20 วันต่อเดือน ก็จะได้ 100,000 บาท�
เทรด หุ้น 5 เดือน กำไร 500,000 บาท�
แสดงว่าทั้งแต่เดือนที่ 6 เราจะมีทุน 1,000,000 บาท ก็จะได้กำไร 200,000 บาท ต่อเดือน
เดือนที่ 9 มีเงิน 1,600,000� เริ่มเอามาใช้ 100,000 บาท เอา 1500000 มาลงทุนต่อ กำไรเดือนล่ะ 300,000 บาท
เดือนที่ 11 มีเงิน 2,100,000 เอามาใช้ 100,000 บาท เอา สองล้านมาลงทุน ได้กำไรเดือนล่ะ 400,000 บาท
คำนวณไล่ไปจนถึง 1000 ล้านบาท มันจะทำให้เรามองเห็นทางชัดเจนขึ้น แต่เมื่อทำดู เริ่มต้นผมใช้ทุน 500,000 หาเงินได้วันล่ะ 5000 บาทจริง
แต่ถ้าเล่นพลาดขาดทุนถึงวันล่ะ 2หมื่นบาท ซึ่งผมก็ต้องไปลองหาวิธีแก้ไข ให้มันดีขึ้น รื้อแผนใหม่ ทำแผนใหม่วนไปเรื่อยๆ ถึงมันจะไม่สำเร็จ แต่แผนเราจะคมขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นๆ ค่อยๆเข้าหาเป้าหมายสูงสุดทีล่ะนิดๆ และก็มีโอกาสถึงเป้าหมายได้
อันนี้คือตัวอย่างทุนเริ่มต้น ความชอบและความสามารถของผม ซึ่งทุกคนจะไม่เหมือนกัน แล้วแต่ทุนที่เริ่มเก็บได้ ความสามารถ และเป้าหมายของใครของมัน แต่ทุกคนสามารถตั้งเป้าหมายที่สูงๆได้เหมือนกันหมด
3 การป้องกันความเสี่ยง� ความเสี่ยงคือเหตุการณ์ที่เราไม่ต้องการให้เกิด ไม่มีใครอยากให้เกิดกับตัวเอง แต่เราไม่สามารถป้องกันได้ 100% ผมเจอเคสน้องที่รู้จักพึ่งตั้งบริษัทกำลังไปได้ดี แต่ซวยไปประสบอุบัติเหตุกันทำให้งานหยุดชะงัด ไม่มีรายได้ แต่เขาก็มีเงินสำรอง (เงินออม) ทำให้ยังมีเงินกินเงินใช้อยู่ ทำให้รอดไปได้�
แต่อีกเคส เพื่อนแม่ของผมที่โดนไล่ออกจากงานเพราะพิษเศรษฐกิจโควิด มีหนี้สิน ทั้งค่าบ้าน ค่ารถ ตกงานทำให้ไม่มีรายได้ชีวิตลำบาก ไม่มีแผนสำรอง จะเห็นว่าทั้ง 2 เคส เจอเหตุการ์ที่ไม่อยากให้เกิด แต่เคสแรกยังมีเงินออมสำรอง แต่อีกเคสมีหนี้สิ้นมารอซำ้เติมอยู่ เราจึงต้องให้ความสำคัญกับแผนสำรอง การออมเงินให้มากๆ เพื่อไม่ให้เหตุการณืต่างๆที่จะเข้ามาในชีวิตกระทบเราชีวิตเรามากเกินไป อย่างเคสการลงทุนในข้อ 2 ที่มองแต่ข้อดี ทำกำไรได้ แต่ถ้าเราไม่คุ้มความเสี่ยงก็มีโอกาสจะหมดตัวได้เหมือนกัน
แถมเรื่องสุดท้ายอีกสักอย่างคือการตอบแทนผู้มีพระคุณสูงสุดของเรา คือพ่อกับแม่ โดยส่วนตัวผมเป็นคนเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างเรื่องไสยศาสตร์ แต่อยากตอบแทนพ่อกับแม่ ก็มีส่งตังให้ท่านบ้าง แต่ก็รู้สึกได้ว่าชีวิตหลังจากนั้นดีขึ้นมากๆ การบูชาพระอรหันในบ้านผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ผมมีทริกเล็กๆ คือการดูแลผู้มีพระคุณ ควรดูแลในกำลังทรัพย์ที่พอดี ไม่ทำให้เราลำบาก เพราะจะทำให้เรามีความสุขที่ได้ดูแลท่าน และไม่กลับมาเสียดายที่หลัง ถ้าเชื่อเรื่องบุญก็คงมองได้ว่าเป็นบุญที่สมบูรณ์ แถมทำกับพระอรหัน มันจะส่งผลในชีวิตเราอย่างแน่นอน และสุดท้ายก็ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ทุกคนอีกครั้ง และขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ ทั้งเรื่องการงาน งานเงิน สุขภาพ จงพบแต่สิ่งๆดีครับทุกคน ^ ^
�
kku tutor เว็บไซต์หาติวเตอร์ในจังหวัดขอนแก่น ไม่ว่าจะเป็นคณิต วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เรารวบรวมติวเตอร์มาให้คุณทั้งสอนที่บ้าน หรือเรียนพิเศษที่คอมเพล็กซ์ มข มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในราคากันเอง พี่สอนน้อง